เปิด 5 เหตุผลที่มาดามแป้งเลือก มาโน่ โพลกิ้ง เป็นกุนซือช้างศึก

เปิด 5 เรื่องที่อาจเป็นเหตุผลที่ มาดามแป้ง เลือก มาโน่ โพลกิ้ง เป็นกุนซือช้างศึก

1.โปรไลเซ้นต์ ตามเกณฑ์ที่ AFC กำหนดว่าฟุตบอลระดับทีมชาติในยุคใหม่ต้องมีดีกรีโปรไลเซ้นต์ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งจริงๆ มีโค้ชไทยหลายคนที่ยังว่างงานแต่อาจยังไม่พร้อมด้วยเงื่อนไขอื่นๆ
2.รู้จักนักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี ซึ่งข้อนี้ตัวมาโน่ เองผ่านแน่นอน เพราะเขาคุมทีมในเมืองไทยมาเกือบ 10 ปี รู้ฝีเท้าของนักเตะในแต่ละ Gen ดีอย่างแน่นอน ที่สำคัญเข้าใจพื้นฐาน ภาษา และนิสัยใจคอนักเตะแบบไทยสไตล์ดีมาก
3.ว่างงาน มาโน่ เพิ่งแยกทางกับโฮจินมินห์ ซิตี้ ในวีลีกเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เข้าคือโปรไลเซ้นต์ที่พร้อมเริ่มงานได้ทันที
4.ปรับตัวได้เร็วทำงานได้เลย วัฒนธรรมไทยมีหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคกับการทำงานของชาวตะวันตก แต่ มาโน่ มีประสบการณ์ในเมืองไทยยาวนาน แม้แต่การใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ เขารู้ดีอยู่แล้ว จึงไม่เสียเวลาปรับตัว ใช้ชีวิตและทำงานได้เลย
5.รับเงื่อนไขสัญญาระยะสั้นได้ ปกติโค้ชต่างชาติไม่ต้องการสัญญาตำกว่า 2 ปี แต่เนื่องจากการแพร่ระบาด การจัดการแข่งขันในทัวร์นาเม้นต่างๆ หรือแม้แต่ FIFA DAY ไม่สามารถการันตีว่าจะจัดขึ้นได้ตามกำหนดได้ไหม บวกกับงบประมาณต่างๆ ทำให้สมาคมต้องเคร่งครัดเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสภาพคล่องเพื่อประคองสถานการณ์ในช่วงนี้

จึงทำให้มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ และทีมงานคัดเลือกตัดสินใจจิ้มชื่อของ มาโน่ โพลกิ้ง เป็นกุนซือช้างศึกชุดสู้ศึก AFF SUZUKI CUP 2020 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวกับโค้ชไทยมากมายไม่ว่าจะเป็น ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โค้ชอู๊ด สราวุฒิ ตรีพันธ์ หรือแม้แต่ เซอร์เด็จ จเด็จ มีลาภ ที่ได้เข้ามาร่วมทำทีมในฐานะผู้ช่วยร่วมกับโปรไลเซ้นต์อีกคนอย่าง โค้ชหนึ่ง หนึ่งฤทัย สีทองเวียง

ซึ่งมองในมุมของ มาโน่ โพลกิ้ง แม้ว่าเป็นสัญญาระยะสั้น แต่หากผลงานทีมชาติไทยออกมาดีดี มาโน่ ก็อาจนั่งกุนซือช้างศึกต่อไปยาวๆ แต่ถ้าไม่ดี มาโน่ ก็มีโปรไฟล์ที่ดีในการทำงานระดับทีมชาติ

ดังนั้นในฐานะแฟนฟุตบอลไทย ก็คงต้องตามลุ้นตามเชียร์ ให้กำลังใจทัพช้างศึก ทีมชาติไทยกันต่อไป แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ จะบีบบังคับแค่ไหนก็ตาม