ลิซ่า ลีซอ และโค้ชทีมชาติคนใหม่

ลิซ่า ลีซอ และโค้ชทีมชาติคนใหม่

“พาดหัวอะไรของมัน” เสียงในหัวของคุณพูดด้วยความสงสัย และกดเข้ามถึงบรรทัดนี้เรียบร้อย

ไปด้วยกันกับคอนเท้นที่อาจจะยาวนานในการชักใย

ลิซ่า Blackpink ปล่อย Solo Album ด้วยเพลง LALISA ซึ่งคือชื่อของเธอเอง สร้างปรากฎการณ์ทำลายสถิติต่างๆ มากมายทั่วโลก ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้คือ Represents ตัวเธอ ซึ่งก็เต็มไปด้วยเนื้อหาที่บอกถึงความมั่นใจ พร้อมท่อนฮุคที่ชวนให้แฟนๆ เรียกชื่อเธอ บอกรักเธอ ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ บลิงค์ ทั่วโลกต่างหลงไหลเธออย่างบ้าคลั่ง

แต่ลองคิดมุมกลับกัน ถ้าเพลงนี้ ถ้าเป็นนักร้องไทย เนื้อร้องไทย มันอาจจะได้อารมณ์ที่ต่างกันสิ้นเชิงก็ได้ เพราะบ้านเราไม่ได้ยอมรับความมั่นอกมั่นใจ หรือมั่นหน้าในตัวเองมากนัก โดยพื้นเพ แบบไทยสไตล์ เรามักชอบคนอ่อนน้อมถ่อมตัว พูดน้อยทำงานเยอะ เก่งด้วยผลงาน พรีเซ้นต์คนก็หมั่นใส้

ทำให้กลับไปคิดถึงนักเตะคนหนึ่งที่มักเป็นเป้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะขยับทำอะไรในสนาม แฟนฟุตบอลมักเตรียมรอคอมเม้น เลี้ยงหลบ 1V1 แฟนบอลบางคนพิมพิ์ด่ารอพร้อมกด Enter ทันทีที่พลาด

แน่นอนในรอบ เกือบ 20 ปีนี้มีคนเดียว ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย นักเตะผู้มั่นใจในความสามารถของตัวเอง และเป็นที่หมั่นใส้ของแฟนบอลทั่วประเทศ เขาเก่งไหม เก่งมาก เขาฟิตไหม ฟิตมาก เขาคือมืออาชีพ ที่ยังคงอยู่บนถนนไทยลีก 1 ด้วยวัยที่ปาเข้าไป 36 ปี แต่การดูแลตัวเองสมบูรณ์แบบมาก

แต่แฟนบอล ชอบไหม ไม่ เพราะ Mideset ไม่เคยเข้าใจนักเตะในสไตล์มั่นใจสูง มีความ Aggressive เวลาลงสนาม เขาต้องการแสดงศักยภาพให้โค้ชได้เห็น แสดงผลงานให้ทีม ให้ตัวเอง เขาแสดงออกอยู่ตลอดเวลาถึงความต้องการที่จะลงเล่น ต้องการพิสูจน์ตัวเอง แต่มุมของแฟนบอลไทย เขาคือคนที่อยากเด่น อยากดัง โอเวอร์แอคติ้ง

ซึ่งแน่นอนว่าโค้ชต่างชาติ มาคุมทีมชาติไทยใหม่ๆ ยุคนั้นจะเลือกใช้ ลีซอ เป็นตัวเลือกแรกๆ เสมอ เพราะจุดนี้ มันเป็นการแสดงออกถึงความต้องการที่อยากจะประสบความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา จนมีแฟนบอลมักชอบแชะว่าเขาคือเด็กเส้น

ไม่ใช่เลย นั้นเพราะโค้ชต่างชาติ เขาก็มีพื้นวัฒนธรรมแบบของเขา ตอนเด็กๆ เขายกมือแย่งกันตอบคำถามครู แย่งกันออกไปพรีเซ้นต์งานหน้าชั้น แข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนโรงเรียน มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็ต้องแข่งขันกัน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ชินกับนักเตะประเภทนักเรียนหลังห้อง เงียบๆ ให้ผลงานในสนามพิสูจน์ ซ้อมเนื่อยๆ แล้วบอกว่าแข่งจริงผมเล่นได้สบายอยู่แล้ว ซึ่งโค้ชต่างชาติจะสัมพัสไม่ได้ว่านักเตะแบบนี้จะทีมให้ทีมมี Active อย่างไร

วันนี้ทีมชาติกำลังจะมีโค้ชคนใหม่ ซึ่งแว่วว่ามีผู้เสนอตัวถึง 16 รายชื่อ การคัดเลือกคงเป็นงานหนักของ มาดามแป้ง ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทยคนใหม่ ส่วนการคัดเลือกนักเตะ และตัดตัวก็เป็นหน้าที่ของโค้ช และนักเตะก็มีหน้าที่พิสูจน์ตัวเองเพื่อเข้าสู่ทีมชาติในยุคของโค้ชคนใหม่

ซึ่งแน่นอนว่า นักเตะแบบไทยสไตล์ คือ อาจใช้ได้กับโค้ชคนไทย แต่ถ้าโค้ชคนใหม่เป็นชาวต่างชาติเราอาจจะไม่ได้เห็นนักเตะ กลุ่มหลังห้อง ค่อยๆ หายไปจากทีมชาติไทยชุดนี้ก็ได้

และก็เชื่อว่า แฟนฟุตบอลในยุคเว็บบอร์ดเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ก็เติบโตพอที่จะเข้าใจถึงความต้องการและสไตล์การทำงานของโค้ชต่างชาติมากขึ้น การครหาเรื่องเด็กเส้นคงหมดไปแล้ว เหลือแต่การสร้างผลงานในสนามไทยลีก และสนามซ้อมของแคมป์ทีมชาติของตัวนักเตะเองเท่านั้นที่จะเป็นตัวตัดสิน

ขอบคุณที่ติดตาม กีฬาแลนด์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *