หนองบัว พิชญ ยื่นหลักฐานสู่ศาลกีฬาโลก หวังพลิกคดีปรับเงิน 6.1 ล้าน
หนองบัว พิชญ ยื่นหลักฐานสู่ศาลกีฬาโลก หวังพลิกคดีปรับเงิน 6.1 ล้าน ยันไม่ได้ทำผิด พร้อมลั่น “ต้องสู้เพื่ออนาคตทีมและแฟนบอล”
สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี หรือ “พญาไก่ชน” ตัดสินใจเดินหน้าสู้คดีอย่างเต็มที่ ด้วยการยื่นหลักฐานสำคัญต่อ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) หรือ ศาลกีฬาโลก เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และขอความเป็นธรรม หลังถูก ฟีฟ่า สั่งปรับเงินสูงถึง 6.1 ล้านบาท จากกรณีที่อดีตนักเตะต่างชาติรายหนึ่งยื่นฟ้องว่าโดนยกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม
ชนะหนึ่งแพ้หนึ่ง แต่สู้ต่อเพราะมั่นใจในความจริง
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออดีตนักเตะต่างชาติรายหนึ่งใช้เอกสารปลอมฟ้องร้องผ่านฟีฟ่า โดยในคดีแรก หนองบัว พิชญฯ ถูกตัดสินแพ้เพราะไม่สามารถชี้แจงได้ทันเวลา จนถูกปรับเงินจำนวนมาก แต่ในคดีที่สอง ซึ่งเป็นกรณีคล้ายกัน ทางสโมสรสามารถส่งหลักฐานได้ทันและชนะคดีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 “มาดามจอย” กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานสโมสร ได้เผยว่า สโมสรได้ส่งหลักฐานทุกชิ้นไปยังศาลกีฬาโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจากการชนะคดีในกรณีที่คล้ายกัน
“เราไม่ได้ผิด แต่กลับต้องรับโทษเพียงเพราะส่งหลักฐานไม่ทัน ทั้งที่เนื้อหาคดีเหมือนกันแท้ๆ เรามั่นใจมากว่าศาลกีฬาโลกจะเห็นความจริง” มาดามจอยกล่าว
แม้ค่าใช้จ่ายสูง แต่ไม่ยอมถอย
แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีระดับโลกจะสูงจนหลายสโมสรยอมถอย แต่หนองบัว พิชญ เลือก “กัดฟันสู้” เพราะมองว่าเป็นการสู้เพื่อความยุติธรรม ไม่ใช่แค่เพื่อสโมสร แต่รวมถึงอนาคตของเยาวชนในอะคาเดมี่ที่มีฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และแฟนบอลที่สนับสนุนทีมเสมอมา
“ถ้าเราชนะคดีนี้ เราจะเผยแพร่เรื่องราวนี้ให้กับวงการฟุตบอลไทย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า ทุกสโมสรต้องระวังมิจฉาชีพ เพราะสิ่งที่เราประสบมาไม่อยากให้ใครต้องเจออีก” เธอกล่าวทิ้งท้าย