ประตูจาก ดีโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ ช่วยให้ลิเวอร์พูล คว้าชัย 2 นัดรวด ขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว
นัดนี้ลิเวอร์พูลเปิดบ้านต้นรับการเข้าสนามแบบเต็มสนามได้ แฟน ๆ ได้ร้องเพลง ‘You’ll Never Walk Alone’ ก่อนเริ่มการแข่งขัน
ก่อนเริ่มการแข่งขัน ลิเวอร์พูล แสดงความอาลัย แอนดรูว์ เดวีน กองเชียร์ตลอดชีวิต เหยื่อรายที่ 97 จากโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโรห์
เบิร์นลี่ย์มีโอกาสก่อน ดไวท์ แม็คนีล เปิดเข้าเขตโทษให้ คริส วู้ด โขกบอลไปตรงตัว อลีสซง ทุบทิ้งออกมาได้
ในนาที่ 18 ดีโอโก้ โชต้า พุงโม่งจากการเปิดของ คอสตาส ซิมิกาส ส่งบอลผ่านมือ นิค โป๊ป ช่วยให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0
ประตูแรกของเขาในลีกที่แอนฟิลด์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020
8 นาทีต่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไป ก่อนที่ VAR จะยึดประตูคืนเนื่องจาก ซาล่าห์อยู่ในตำแหน่งล่ำหน้า
ช่วงที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ เบิร์นลีย์ 1-0
ครึ่งหลัง นาที 46 เบิร์นลีย์ เกือบได้ประตูตามตีเสมอ แอชลีย์ บาร์นส์ ได้ซัดจ่อๆส่งบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า
หลังจากลิเวอร์พูลตั้งเกมส์ได้ ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่ 2 ฟาน ไดจ์ค วางบอลข้ามฝากให้ เอลเลียต เอาบอลลงก่อนจ่ายให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
จ่ายทะลุช่องให้ มาเน่ หลุดเดี่ยวไปยิงผ่านตัว นิค โป๊ป เข้าประตูไป เป็นการยิงประตูฤดูกาลใหม่ด้วยประตูที่ 50 ของเขา
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 คว้าชัยสองนัดรวดขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โฌแอล มาติป, คอสตาส ซิมิกาส – ฮาร์วีย์ เอลเลียต, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.81) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.81), ซาดิโอ มาเน่
เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โป๊ป – แมทธิว ลอว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ – โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สสัน (เอริค ปีเตอร์ส น.80), จอช บราวฮิลล์, แจ็ค คอร์ก, ดไวท์ แม็คนีล – คริส วู้ด (เจย์ โรดริเกซ น.75), แอชลีย์ บาร์นส์
